สวัสดีจ้า ตามที่ได้สัญญากันไว้ว่าจะมารีวิวแชร์ประสบการณ์ใช้รองพื้นทั้ง 3 ตัว จาก YSL ทั้งหมดนี้คือพิมได้ทดสอบเป็นเวลาพักใหญ่เลย เพื่อความชัวว่าตกลงมันเหมาะกับเราหรือไม่ รีวิวนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ บางคนอาจจะชอบหรือไม่ชอบแตกต่างกันไปเนอะ ถ้าใครชอบฟังก็กดคลิปฟังได้ค่ะ บ่นให้ฟังนะ อิอิ ส่วนใครชอบอ่าน อ่านได้ด้านล่างเลยค่ะ
New YSL Fusion Ink Foundation 7/10
ระดับการปกปิด : Medium - ตัวนี้การปกปิดเบาบางมาก งานเผยผิว งานผิวดี ใครที่มีรอยสิวรอยดำ กระ ฝ้า เอาไม่อยู่นะคะ ต้องคอนซิลเลอร์ช่วย แต่ถ้าใครผิวหน้าดีอยู่แล้วทาตัวนี้เข้าไป ผิวออร่าอย่างเป็นธรรมชาติ หลอกผู้ชายได้ค่ะว่าผิวดีแต่เกิด อิอิ
เกลี่ยง่าย : เกลี่ยง่ายมากนะ ถึงจะไม่ตั้งใจเกลี่ยก็เนียนเรียบไปเลยค่ะ เนื้อลื่นๆ เหมือนมีซิลิโคนผสมอยู่ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก ไม่เคยสัมผัสเนื้อชนิดนี้มาก่อน ให้ลองนึกว่าเอา Smashbox Primer สีใสๆผสมลงไปในรองพื้นลิกคิว ออกแนวอย่างนั้นอะคะ
ไม่คราบ : ตัวนี้ไม่เป็นคราบเลยค่ะ
ติดทน : เขาเคลมไว้ว่า ติดทนถึง 24 ชั่วโมง แต่เอาจริงๆยังไม่เคยอยู่กับรองพื้นตัวนี้ถึง 24 ชม. แต่เท่าที่ลองใช้ 5 ชั่วโมงผ่านไป ยังติดดีอยู่ แต่ก็เห็นรอยดำปรากฏชัดขึ้นนะ ด้วยความที่รองพื้นเนื้อเบาบางมากๆ ก็อย่างที่บอก ถ้าผิวหน้าดี จัดตัวนี้ได้สบายเลยค่ะ
คุมมัน : ส่วนตัวเป็นคนผิวแห้ง ตัวนี้ไม่ได้ทำให้หน้าพิมมันขึ้น แต่ถ้าเหงื่ออกหรือรู้สึกร้อนขึ้นมา ความมันบริเวณT zone เพิ่มขึ้นนิดหน่อย Fusion Ink ก็ช่วยไม่ได้อะคะ
สไตล์การแต่งหน้า : เหมาะกับแต่งหน้าเบา แต่งหน้าเผยผิวสวย แต่งหน้าเผยผิวออร่า แต่งหน้าไปเรียน แต่งหน้าไปเดินตลาด หรือ วันที่ต้องการพักผิวหน้า
ผิวหน้าที่เหมาะ : ผิวแห้ง - ผสม
YSL Forever Youth Liberator Serum Foundation 10/10
ระดับการปกปิด : Medium - Full - ปกปิดปานกลาง-แน่น ถ้าสำหรับคนผิวหน้าดีอาจจะบอกว่าหนักเกินไป ตัวนี้เป็นตัวที่ปกปิดได้ดีที่สุดในบรรดา 3 รุ่นนี้ สำหรับคนมีริ้วรอย รอยสิว กระ ฝ้า ตัวนี้ช่วยได้เยอะคะ
เกลี่ยง่าย : เกลี่ยง่ายค่ะ ปกติใช้แปรง F80 Sigma ลงรองพื้นตัวนี้ค่ะ เนียนกริ๊บ
ไม่คราบ : ไม่เป็นคราบให้เห็นเลยค่ะ ไม่ลอก ไม่แตกตัวออกจากกัน
ติดทน : ติดทนมากๆ นานถึง 24 ชม. จริงๆ
คุมมัน : คุมได้ไม่ระดับหนึ่ง สำหรับคนผิวแห้งอย่างเรา ถือว่าดีมากๆ กันน้ำกันเหงื่อได้ดี สำหรับคนผิวมันตัวนี้ไม่แน่ใจค่ะ
สไตล์การแต่งหน้า : คนที่ต้องการหน้าเนียน หน้าเด้ง หน้าฉ่ำ ดูสวยสุขภาพดี ดูผ่อง แต่งหน้าออกงาน
ผิวหน้าที่เหมาะ : ผิวแห้ง - ผสม
เกลี่ยง่าย : เกลี่ยง่ายค่ะ ปกติใช้แปรง F80 Sigma ลงรองพื้นตัวนี้ค่ะ เนียนกริ๊บ
ไม่คราบ : ไม่เป็นคราบให้เห็นเลยค่ะ ไม่ลอก ไม่แตกตัวออกจากกัน
ติดทน : ติดทนมากๆ นานถึง 24 ชม. จริงๆ
คุมมัน : คุมได้ไม่ระดับหนึ่ง สำหรับคนผิวแห้งอย่างเรา ถือว่าดีมากๆ กันน้ำกันเหงื่อได้ดี สำหรับคนผิวมันตัวนี้ไม่แน่ใจค่ะ
สไตล์การแต่งหน้า : คนที่ต้องการหน้าเนียน หน้าเด้ง หน้าฉ่ำ ดูสวยสุขภาพดี ดูผ่อง แต่งหน้าออกงาน
ผิวหน้าที่เหมาะ : ผิวแห้ง - ผสม
YSL Touche Eclat Foundation 7/10
ระดับการปกปิด : Medium - ปกปิดปานกลาง
เกลี่ยง่าย : เกลี่ยง่ายค่ะ ปกติใช้แปรง F80 Sigma ลงรองพื้นตัวนี้ค่ะ เนื้อฉ่ำน้ำ
ไม่คราบ : มีคราบและแตกตัวหลัง 7-8 ชม.ค่ะ เพราะความฉ่ำในตอนทาแรกๆมันหายไป
ติดทน : ปานกลางค่ะ ขึ้นอยู่กับแป้งที่ใช้ set ด้วยค่ะ อาจจะเผยให้เห็นรอยดำหลัง 6 ชม.
คุมมัน : คุมมันได้น้อยค่ะ ผิวมันไม่เหมาะนะคะ เพราะให้ความฉ่ำน้ำค่อนข้างเยอะ ทาแล้วจะรู้สึกหนึบๆ
สไตล์การแต่งหน้า : หน้าเด้ง หน้าฉ่ำ ดูสวยสุขภาพดี ดูผ่อง หรือเป็น Everylook ค่ะ
ผิวหน้าที่เหมาะ : ผิวแห้ง - ผสม
เกลี่ยง่าย : เกลี่ยง่ายค่ะ ปกติใช้แปรง F80 Sigma ลงรองพื้นตัวนี้ค่ะ เนื้อฉ่ำน้ำ
ไม่คราบ : มีคราบและแตกตัวหลัง 7-8 ชม.ค่ะ เพราะความฉ่ำในตอนทาแรกๆมันหายไป
ติดทน : ปานกลางค่ะ ขึ้นอยู่กับแป้งที่ใช้ set ด้วยค่ะ อาจจะเผยให้เห็นรอยดำหลัง 6 ชม.
คุมมัน : คุมมันได้น้อยค่ะ ผิวมันไม่เหมาะนะคะ เพราะให้ความฉ่ำน้ำค่อนข้างเยอะ ทาแล้วจะรู้สึกหนึบๆ
สไตล์การแต่งหน้า : หน้าเด้ง หน้าฉ่ำ ดูสวยสุขภาพดี ดูผ่อง หรือเป็น Everylook ค่ะ
ผิวหน้าที่เหมาะ : ผิวแห้ง - ผสม
รีวิวให้แบบกระชับนะคะ ฟังเพิ่มเติมได้ในคลิปค่ะ